หยุดอ่านข้อความนี้สักนิด ก่อนคิดจะเล่น Facebook
ความนี้เรียบเรียงจาก 7 Things to Stop Doing Now on Facebook by Consumer Reports Magazine Wednesday, May 12, 2010 เป็นคำกล่าวของ Charles Pavelites, ผู้ชำนาญการพิเศษของหน่วยงาน ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์จากอาชญากรรมทางอินเตอร์เนต แนะนำว่าอย่าให้รายละเอียดเกี่ยวกับตัวคุณมากนักบน Facebook และที่ Online อื่นๆ
ฉะนั้น 7 สิ่งที่ควรหยุดทำทันทีใน Facebook คือ
- ใช้รหัสผ่านแบบง่ายๆ : หลีกเลี่ยงการใช้ชื่อธรรมดา รือคำทั่วไปที่สามารถหาพบได้ในพจนานุกรม หรือแม้แต่ตัวเลขที่ลงท้ายรหัสผ่านดังกล่าว ควรใช้การผสมระหว่าง ด้านหน้า ด้นหลังตัวอักษร ด้วยตัวเลข หรือสัญลักษณ์ รหัผ่านควรมีแปดตัวอักษรอย่างน้อย เทคนิคที่ดีอย่างหนึ่งคือ การเพิ่มตัวเลขหรือสัญญลักษณ์ระหว่างกลางคำผ่าน
- ระบุวันเดือนปีเกิดในข้อมูลสาธารณะ : โจรภัยทางข้อมูลแบบเบื้องต้น ผู้ไม่หวังดีมักจะใช้ในการค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวคุณ เพราะมันจะมีประโยชน์อย่างมากในการเข้าถึงข้อมูลธนาคารหรือบัตรเครดิต ถ้าคุณได้ระบุวันเกิด ให้กลับไปที่ข้อมูลส่วนตัว เข้าไปแก้ไขข้อมูลส่วนตัว ระบุข้อมูลพื้นฐานคือ ไม่แสดงวันเกิดในข้อมูลส่วนตัว หรือ แสดงเฉพาะวันและเดือนเกิดในหน้าข้อมูลส่วนตัว ( การติดต่อสอบถามเกี่ยวกับบัตรเครดิต มักจะต้องตอบข้อมูลเรื่องนี้ด้วย)
- ตรวจสอบการใช้งานของข้อมูลส่วนตัว : ข้อมูลทั้งหมดใน Facebook คุณควรกำหนดสิทธิ์ในการเข้าถึงของเพื่อน หรือเพื่อนของเพี่อน หรือตัวคุณเอง เช่น การเข้าชมรูปภาพ วันเกิด ศาสนา และข้อมูลของครอบครัว หรือสิ่งอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับตัวคุณเอง เช่น ข้อมูลในการติดต่อ เบอร์โทรศัพท์ สถานที่อยู่ ควรจำกัดสิทธิ์เฉพาะบุคคลหรือกลุ่มที่สามารถจะเข้าถึงข้อมูลดังกล่าว หรือจัดการบล็อก(ห้าม)บุคคลบางคน หรือไม่ให้บุคคลภายนอกสามารถเข้าถึงข้อมูลดังกล่าว
- ระบุชื่อบุตรหลาน : โดยมีข้อความที่อธิบายหรือตำบรรยายใต้ภาพประกอบ ใม่ควรระบุชื่อบุตรหลานหรือป้ายกำกับ( tags) หรือ มีคำอธิบาย/บรรยายรายละเอียดใต้ภาพ และถ้าได้มีคนอื่นหรือเพื่อนคุณทำเช่นว่านั้น ก็ขอให้ช่วยแก้ไขหรือลบออกพร้อมกับป้ายกำกับด้วย แต่ถ้าชื่อบุตรหลานของคุณไม่ได้อยู่ใน Facebook แต่ได้มีบางคนได้ระบุข้อมูลดังกล่าวไว้ใน ป้ายกำกับ( tags) หรือ หรือมีคำอธิบายหรือบรรยายรายละเอียดใต้ภาพ ก็ขอให้เจ้าของข้อมูลดังกล่าวแก้ไข/ลบออกด้วย ( เป็นช่องทางให้ผู้ไม่หวังดีใช้ข้อมูลดังกล่าว ในการก่ออาชญากรรมบางเรื่องได้ง่าย เพราะรู้ว่าเป็นลูกหลานของใครมีฐานะการเงินเป็นเช่นไร)
- การบอกว่า กำลังออกจากบ้าน : เป็นนัยที่สื่อความหมายว่า ไม่มีใครอยู่ในบ้าน หรือคล้ายเป็นการปิดป้ายว่า “ ไม่อยู่ ” ไว้ที่หน้าบ้านเช่นกัน ให้รอจนคุณกลับถึงบ้านแล้วค่อยบอกถึงการผจญภัยหรือความสนุกสนาน ในการเดินทางหรือการใช้วันหยุดพักผ่อน โดยอาจจะไม่ต้องระบุ วันเดือนปีที่เดินทางก็ได้ หรือระบุวันเดือนปีที่เดินทางให้คลุมเครือไม่ชัดเจน
- การปล่อยให้ Facebook ค้นหา : พบคุณ เพื่อป้องกันคนแปลกหน้าเข้าถึงหน้าข้อมูลของคุณ ให้ไปที่การค้นหาของ Facebook ข้อมูลส่วนตัว และเลือกเฉพาะเพื่อนเท่านั้นของ Facebook ที่จะค้นพบข้อมูลดังกล่าว และให้มั่นใจว่ากล่องข้อมูลสาธารณะไม่ได้ระบุให้เข้าถึงข้อมูลดังกล่าวได้
- อย่าให้เด็กใช้ Facebook โดยไม่ตรวจสอบควบคุม : แม้ว่า Facebook จะไม่อนุญาตให้เด็ก อายุต่ำกว่าสิบสามขวบหรือยังไม่ถึงเกณฑ์ใช้งาน แต่หลายคนก็ทำการปลอมอายุเข้าไปใช้ได้ ถ้าคุณมีเด็กหรือวัยรุ่นในความปกครองใช้ Facebook วิธีการที่ดีที่สุดในการตรวจสอบและควบคุม คือ การเข้าร่วมเป็นสมาชิกในกลุ่มเพี่อนของเขา หรือให้ใช้ email ของคุณแทนในการติดต่อระหว่างบัญชีของเขา เพื่อที่คุณจะได้รับข้อความหรือตรวจสอบการใช้งานของเขา “ เพราะสิ่งที่พวกเขาคิดว่าไม่เป็นไร ไม่มีอะไร กลับกลายเป็นสิ่งที่เลวร้ายอย่างง่ายดาย ” ยกตัวอย่างเช่น มีเด็กคนหนึ่งมักจะบอกว่า ” แม่กำลังจะกลับบ้านแล้ว ฉันต้องไปล้างจาน” มักจะบอกทุก ๆ วัน ในเวลาเดิมเสมอ มันเป็นการบอกเวลาที่ชัดเจนมาก เกี่ยวกับการเดินทางไปกลับของพ่อแม่ ( บอกช่วงเวลาที่ไม่มีผู้ใหญ่อยู่ที่บ้าน คนร้ายอาจกะระยะเวลาก่อกรรมทำชั่วได้ง่ายขึ้น)
อย่าลืมว่า การใช้งาน หรือการเล่น Facebook ก็เหมือนเราอยู่ในที่สาธารณะ ใครๆก็สามารถรู้จักเราได้ ผ่านสื่อกลางจาก Facebook อะไรก็ตาม มีข้อดีก็ต้องมีข้อเสีย อยู่ที่ว่า เราจะเอาข้อดีจากการใช้งานจาก Facebook ได้มากแค่ไหน อะไรที่เป็นความลับ เก็บๆไว้บ้าง ไม่เป็นไรหรอกค่ะ